Boots Tea Tree Witch Hazel Anti-Blemish Deep Cleansing Facial Foam

            สวัสดีค่ะ สำหรับวันนี้จะมารีวิวโฟมล้างหน้ากันบ้าง ซึ่งโฟมล้างหน้าตัวนี้เราใช้มานับขวดไม่ถ้วนเลยค่ะ ใช้มาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยเลยทีเดียว (หู้ววว กี่ปีแล้ว ไม่อยากคิด) โฟมล้างหน้าตัวนี้มีขายที่ Boots ที่เดียวเท่านั้นค่ะ ชื่อรุ่นคือ : Tea Tree Witch Hazel Anti-Blemish  Deep Cleansing Facial Foam ปริมาณ 150 ml. ลักษณะจะเป็นน้ำสีขียวใสๆ ข้างในเป็นหัวปั๊ม เมื่อปั๊มออกมาจะเป็นโฟมนุ่มๆฟูๆสีขาวค่ะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ สรรพคุณที่บรรยายไว้ข้างขวด คือ เป็นสูตรลดการเกิดสิว อุดมคุณค่าด้วยส่วนผสมของ Tea Tree และ Witch Hazel ซึ่งมีคุณสมบัตรเป็น Anti Bacteria Agent ลดการสะสมของแบคทีเรีย

            สำหรับความรู้สึกของเราที่มีต่อโฟมล้างหน้านี้คือ.....

- ใช้แล้วรู้สึกผิวหน้าสะอาดหมดจด แต่ยังคงความชุ่มชิ้นและความสมดุลของผิว ไม่รู้สึกแห้งตึงหลังล้างหน้า น่าจะเป็นเพราะเนื้อโฟมที่ปั๊มออกมาเป็นโฟมนุ่มๆฟูๆ จึงทำให้อ่อนโยน ไม่ทำให้ระคายเคืองผิวหน้ามากนัก (เมื่อเทียบกับโฟมแบบที่เป็นเนื้อครีมแล้วมาผสมกับน้ำให้เกิดฟอง)

- ส่วนตัวไม่ได้เป็นสิวจึงไม่ได้สนใจสรรพคุณเรื่องลดการเกิดสิวมากเท่าไหร่ แต่เป็นคนผิวผสมค่อนข้างมัน หลังจากใช้โฟมนี้ รู้สึกว่าผิวหน้าดีขึ้นมากๆ ผิวหน้าเนียนละเอียดขึ้นจากเดิม ไม่หยาบกระด้าง รู้สึกแตกต่างจากใช้โฟมยี่ห้ออื่นๆเลยค่ะ

- มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

- ขวดนึงใช้ได้ค่อนข้างนานเลยค่ะ

- ราคาไม่แพงมาก ที่สำคัญ Boots จัดโปรโมชั่นบ่อยมาก ทั้ง ซื้อ 1แถม1 / ซื้อ 2แถม1 / ซื้อชิ้นที่2 ลด50% เป็นช่วงกอบโกยเลยค่ะ

            วันนี้ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่เร็วๆนี้ค่ะ  

โกยแหลก! 10 วิ 300 บาท กับเครื่องสำอาง Catrice

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ช่วงนี้มาบ่อย เบื่อกันรึยังค้า
            ผ่านมาสดๆร้อนๆเลยกับงาน the Mall ลดทะลุพิกัด ที่จัดขึ้นที่ Impact เมืองทองธานี งานนี้จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. – 4 ต.ค. 58 ที่ผ่านมานี้เองค่ะ และจุด Peak ที่สุดของงานนี้จะเป็นอะไรไปไม่ได้นั่นก็คือ งานโกยค่ะ! โกยเครื่องสำอางแบรนด์ Catrice นั่นเอง เป็นแบรนด์จากประเทศเยอรมัน เชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนก็คงจะไม่พลาดงานนี้อย่างแน่นอน กติกามีอยู่ว่า ต้องซื้อคูปองเพื่อร่วมสนุก มูลค่า 3oo บาท เราจะสามารถโกยเครื่องสำอางในกระบะได้ภายในเวลา 10 วินาที อยากจะบอกว่า กิจกรรมนี้มีคนสนใจ และเข้าร่วมสนุกเยอะมากๆๆๆๆ จริงๆ คือมั่นใจว่ามาคนแรกๆแล้ว งานเริ่มตั้งแต่ 10.30 น. ก็ถึงเวลานั่นเลยค่ะ แต่ไปต่อคิวเท่านั้นแหละ อื้อออหือ... ได้คิวที่ 54 แต่กิจกรรมรอบเช้า เริ่มโกยตั้งแต่เวลา 11.30 น. คิวที่ 1-50 ค่ะ - -‘’ อิคิวที่ 54 อย่างดิฉันก็ต้องรอรอบ 14.30 น. ค่ะเฮ้อออ... หลายๆคนก็ต้องกลับบ้านมือเปล่า เพราะคูปองมีจำนวนจำกัดเสียดายแทนจริงๆค่ะ

            พอถึงเวลา 14.30 น. ก็รีบไปตรงจุดที่นัดหมายทันทีเลยค่ะ จำได้ว่า Moment นั้นตื่นเต้นสุดๆ วันนั้นไปโกยกัน 3 คนพี่น้องค่ะ มีแม่ยืนให้กำลังใจอยู่ห่างๆ

            เวลา 10 วินาทีนี่ก็หยิบของได้หลายอย่างอยู่นะคะ ถึงถุงจะเล็กๆ แต่ก็โกยใส่มาได้ 13 อย่างแหนะ แต่แพ้น้องสาวไปนะคะ น้องสาวโกยมาได้ 18 อย่าง (ทำได้ไง!!) ฟินกันไปเลย เพราะแบรนด์นี้ เป็นแบรนด์ในดวงใจจริงๆค่ะ ใช้ของเค้าหลายๆอย่างเลย ราคาน่าเอ็นดู แต่คุณภาพถือว่าดีเลิศทีเดียว มาดูกันเลยค่ะว่า 13 ชิ้นที่โกยมาได้จะมีอะไรบ้าง

ที่ได้มาก็จะเป็น ยาทาเล็บ 4 สี 4 ขวดค่ะ (สีน้ำตาลอ่อนอมม่วง/สีม่วงเข้ม/สีทองอ่อนๆ/สีน้ำเงินเข้ม) ได้ลองทาแล้ว เนื้อดีมากสีสวยด้วยค่ะ ต่อมาคือ Bronzer เนื้อ Matte สี Sand Beige ชอบมาก ต่อด้วย Eye Shadow ค่ะ มีทั้งแบตลับ 4 สี (สีโทนเขียวๆฟ้าๆ แอบใช้ยากนะเนี่ย) และแบบ Single (สีทองและสีน้ำตาลอมเทา ชอบมากอีก เนื้อดี๊ดี) ตามมาด้วยแปรง Gel Eyeliner และยังมีดินสอเขียนขอบปากสีแดงเข้ม สุดท้ายกระดาษซับมันค่ะ โอยๆๆๆ คุ้มมากค่ะงานนี้ ถ้าซื้อตามเคาน์เตอร์ใน Boots ชิ้นนึงก็ราคา 2xx – 3xx บาท สัญญาว่า ถ้ามีกิจกรรมนี้มาจัดอีกจะไม่พลาดอย่างแน่นอน

J ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ติดตามนะคะ J

Review Shopping with Luxola

           

        สวัสดีสาวๆทุกคนค่า วันนี้มาแชร์ประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์ เพื่อนๆหลายคนน่าจะรู้จักเว็บไซท์นี้กันเป็นอย่างดี นั้นก็คือ Luxola นั่นเองค่ะ ( www.luxola.co.th )โดยเว็บนี้มีสินค้าให้เลือกเยอะแยะมากค่ะ ตั้งแต่สกินแคร์ผิวหน้าและผิวกาย เมคอัพ รวมถึงอุปกรณ์เสริมสวยต่างๆค่ะ มีหลายแบรนด์ให้เลือก ตอนแรกก็กล้าๆกลัวๆ ไม่กล้าซื้อผ่านเว็บไซท์เหล่านี้ค่ะ เพราะไม่รู้ว่าน่าเชื่อถือมากน้อยขนาดไหน ครั้งแรกที่เราสั่งเป็น Brow Pencil และ Eyeliner ของ Cosluxe ที่เราใช้เป็นประจำค่ะ ปกติเราจะสั่งผ่านเว็บไซท์ Cosluxe โดยตรง และมีค่าจัดส่งนิดหน่อย แต่คลิกไปคลิกมา บังเอิญไปเจอเว็บ Luxola นี่แหละค่ะ แต่เรามาสะดุดตาตรงที่ ส่วนลด ค่ะ คือคำนวณไป คำนวณมา บวกลบหลายตลบ เออๆ ซื้อกับเว็บนี้คุ้มกว่า เปลี่ยนใจมาสั่งเว็บนี้แบบทันที ส่วนครั้งที่ 2 ที่ซื้อก็คือ Lesasha Chic Magic 3 in 1 Hot Air Styler ค่ะ ที่ซื้อเพราะต้องการ
หาผลิตภัณฑ์ที่ง่ายต่อการจัดแต่งทรงผม และที่สำคัญ คือได้ส่วนลด (มูลค่า 300 บาท)
มาจากการซื้อของรอบแรกค่า... อิอิ
        ทั้งนี้ เราก็จะมาบอกถึงข้อดีที่เราประทับใจกันนะคะ
1. สั่งซื้อง่าย สะดวกสบาย การชำระเงินมีให้เลือกทั้งจ่ายที่ที่รับสินค้า,
จ่ายผ่านบัตรเครดิต, จ่ายผ่าน Paypal, ชำระเงินผ่านการหักบัญชีอัตโนมัติแบบออนไลน์, ชำระเงิน
ผ่านธนาคารออนไลน์, ชำระเงินผ่านเครื่อง ATM, ชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์ให้บริการของธนาคาร, 
ชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส (7-11)
2. สามารถเลือกวันที่เราสะดวกรับสินค้า

(ตามระยะเวลาที่ website กำหนดประมาณ 2-5 วัน จากวันที่สั่งสินค้า)

3. วิธีรับสินค้ามีทั้ง รับที่หน้าบ้านเรา จะมี Messenger มาส่งให้ถึงมือ เมื่อถึงวันกำหนดจัดส่ง 
เพื่อนๆต้องอยู่บ้านคอยรับของนะคะ (หรือให้แม่ หรือพี่เรา น้องเรา รับให้ก็ได้) เจ้าหน้าที่จะโทรมา 
confirm กับเราก่อน ถามเราว่าเราจะสะดวกรับวันนั้นได้หรือไม่ และเรื่องที่อยู่การจัดส่ง หรือสามารถรับได้ที่สถานีรถไฟฟ้า BTS (วิธีนี้ยังไม่เคยลองนะคะ)

4. สินค้าอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่มิดชิด ไม่มีบุบสลายหรือร่องรอยเสียหายก่อนถึงมือเราค่ะ5. สามารถคืนสินค้าได้ภายใน 7 วันหลังการสั่งซื้อหากเพื่อนๆไม่พอใจในสินค้า ได้รับสินค้าผิด
หรือสินค้าชำรุดเสียหาย โดยสินค้าจะต้องอยู่ในสภาพเดิม ไม่ได้แกะมาใช้งานนะคะ
6. เราเคยฝากข้อความไปถึง Luxola ค่ะ เนื่องจากตอนชำระเงินผ่านบัตรเครดิตไม่สำเร็จ ซึ่งได้รับ email ตอบกลับมาเร็วพอสมควร และสามารถเปลี่ยนเป็นการชำระเงินปลายทาง
ได้ค่ะ7. มีการสะสม LX Point เพื่อ Redeem เป็นส่วนลดได้
8. ที่สำคัญที่สุดๆๆๆๆ คือส่วนลดค่ะ ลดบ่อยมากๆ ถูกใจขาช้อปออนไลน์แน่นอน

        และมีข้อเสียอีกนิดหน่อย...

1. ถ้าเราสั่งซื้อไม่ถึงยอดซื้อขั้นต่ำ (499 บาท) จะมีค่าจัดส่ง 59 บาท

2. ส่วนลดเยอะเกินไปจนทำให้สิ้นเปลืองโดยไม่รู้ตัวค่ะ :( 

    J ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ติดตามนะคะ J

เช็คก่อนใช้ ปลอดภัยพร้อมสวย

    สวัสดีอีกครั้งค่ะ วันนี้กลับมาพร้อมกับความรู้เล็กๆน้อยๆ ในการสังเกตวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์ต่างๆกันนะคะ เพื่อนเคยสงสัยกันมั้ยคะ ว่าผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เราใช้ ตั้งแต่สกินแคร์ ครีมกันแดด รวมถึงเครื่องสำอางค์ที่เราใช้กันอยุ่ทุกวันมีอายุการใช้งานเท่าไหร่บ้าง บางผลิตภัณฑ์อาจระบุวันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์ (Exp.) แต่ถ้าไม่มี เรามีวิธีสังเกตุง่ายๆมาบอกเพื่อนๆกันค่ะ

    จากภาพเราจะเห็นว่ามีสัญลักษณ์เป็นรูปคล้ายๆกระป๋องเปิดฝา และมีตัวเลขอยู่ในรูปภาพ หรือข้างรูปภาพและตามด้วยตัว M หลังตัวเลข เช่น 24M คือผลิตภัณฑ์จะมีอายุการใช้งานหลังจากเปิดใช้ครั้งแรกไปอีก 24 เดือน หรือ 2 ปีี นั่นเองค่ะ

    เมื่อเพื่อนๆทราบกันแล้วก็อย่าลืมสังเกตผลิตภัณฑ์ที่ใช้กันอยู่ว่าใกล้หมดอายุหรือยัง บางทีเข้าใจนะคะว่าต้องเกิดความเสียดายกันบ้างถ้ายังใช้ไม่หมด (ฮ่าๆๆ เพราะเคยเป็นเหมือนกัน บางอย่างก็ซื้อมาแพงนี่นา) แต่เพื่อความปลอดภัยของเพื่อนๆเอง และความมีประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์อีกด้วย เรื่องเล็กๆน้อยที่ไม่ควรมองข้ามกันนะคะ

เดือนเกิดบอกอะไรคุณบ้าง ?

พอเข้าหน้าฝนทีไร...หลายๆคนมักจะมีอาการป่วยมาเยี่ยมเยือนอยู่เสมอ เหลียวมองคนรอบข้าง เอ? ทำไมเขาไม่เป็นอะไรกันเลยนะ  วันนี้เรามีข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพที่น่าสนใจมาฝากกันด้วยค่ะ

ปัญหาสุขภาพที่คนในแต่ละเดือนมักจะเป็นกัน

จากภาพจะเห็นได้ว่า คนที่เกิดในเดือนที่แตกต่างกันจะมีปัญหาสุขภาพที่แตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นโรคเหล่านี้กันทั้งหมด นี่เป็นเพียงข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากที่ต่างๆเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่าง เดือนเกิดและโรคที่มักจะเกิดขึ้นกับผู้คนในแต่ละเดือนเท่านั้นค่ะ ขอบคุณขอมูลดีๆจากนิตยาสาร : Cosmopolitan  ด้วยจ้า

เกาะหมาก : สวยม๊ากมาก EP#2

ความเดิมจากตอนที่แแล้ว

เช้าวันที่สองบนเกาะหมากของเราที่ Seavana Beach Resort Koh Mak เริ่มต้นด้วยการตื่นมามองทะเลแล้วไปกินอาหารเช้าที่ Day Bed Restaurant ซึ่งเป็นห้องอาหารของทางรีสอร์ทโดยเราจะเลือกจานหลักได้ 1 เมนู และมีบุฟเฟ่ต์สลัดและผลไม้ หร้อมชา กาแฟ ให้ฟรีด้วย เมนูที่เราเลือกคือ Powerful Morning ค่ะ

เมนูอาหารเช้าเลือกได้ 1 อย่าง

PowerFul Morning : อาหารเช้าง่ายๆสไตล์ฝรั่ง

ท้องอิ่มแล้วเราก็กลับไปอาบน้ำและเตรียมอุปกรณ์เพื่อไปดำน้ำที่เกาะรังซึ่งเราให้ทางรีสอร์ทจองทริปดำน้ำให้แต่เนื่องจากเป็นช่วง Low-Season ทำให้ทริปที่จองไว้ล่มลงกระทันหัน เราเศร้ามากนั่งร้องไห้อยู่ในใจแต่ไม่ทันที่น้ำตาหยดแรกจะไหลออกมา พนักงานของรีสอร์ทก็แจ้งว่ามีอีกทริปหนึ่งแต่ต้องเพิ่มเงินเล็กน้อย เราไม่ลังเลใจตอบตกลงทันทีโดยไม่ต้องดื่มน้ำตามมากๆ (ไม่ใช่กินยานะยะ) การดำน้ำในครั้งที่เราไปกับบริษัท BB Diving ซึ่งพาเราไปดำน้ำ 3 จุด คือ เกาะโล้น เกาะรัง และ เกาะยักษ์ เราดำได้แค่ที่เกาะโล้นเท่านั้นเพราะไม่เคยดำน้ำมาก่อนยอมรับว่าเหนื่อยมากๆ แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าการลงทุนค่ะ เพราะใต้ท้องทะเลสวยงามมากๆ อยากได้กล้อง Gopro กันเลยทีเดียว 

เกาะรัง

เกาะรัง เจ้าเก่าเจ้าเดิม

วันที่สองของเราหมดไปกับการดำน้ำนี่แหละ กลับมาสลบไปซักพัก ตื่นขึ้นมาก็เย็นพอดีได้เวลาออกไปเก็บความประทับใจเพิ่มเติม ข้อดีของที่นี่คือ เราสามารถเข้าไปเดินชมและถ่ายภาพได้ทุกรีสอร์ทโดยไม่จำเป็นต้องเข้าพัก ทำให้เราสนุกกับการเดินเข้าที่นั่นที่นี่มากๆ ทั้ง Cococape, Good Time Resort และอื่นๆอีกมากมาย ทุกคนบนเกาะอัธยาศัยดีมากๆเลยค่ะ

Cococape

Cococape

มื้อเย็นของวันนี้เราก็ฝากท้องไว้ที่ Day Bed Restaurant เช่นเดียวกับมื้อเช้า ในความเห็นส่วนตัวเราคิดว่า รสชาติและราคาของที่นี่ อยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียวหละ ใครที่ไม่อยากออกไปกินไกลๆเลือกฝากท้องไว้ที่นี่ก็ไม่เลวนะ ระหว่างที่กินอาหารก็มีเซอร์ไพรซ์อีกแล้วนั่นก็คือไฟดับจ้า มืดตึ๊ดตื๋อ แต่ก็ไม่นานนักก็กลับมาสู่ภาวะปกติ พอท้องอิ่มเราก็กลับห้องเปิดหนังที่หยิบมาจาก Front มาเปิดดู ลืมบอกว่ามีหนังให้หยิบมาดูฟรีด้วยนะ เรื่องที่เราเลือกมาวันนี้คือ Wall Street 2 ที่มีพระเอกจาก Transfromer แสดงนำ เราชอบหนังเรื่องนี้นะ มันทำให้เราหลับภายใน 5 นาที Zzz...

เข้าสู่เช้าวันที่สามของเราซึ่งเป็นวันกลับละ นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้พายเรือไปเกาะขามเลย ไม่ได้การละ คิดได้ดังนั้นจึงชวนแฟนลากเรือลงน้ำด้วยหัวใจ เตรียมพร้อมเดินทางไป ท่องทะเลดูซักที~ ว่าแล้วก็พายเรือมุ่งหน้าไปยังเกาะขาม ฉันจะเป็นเจ้าแห่งโจรสลัดให้ได้ เดี๋ยวๆ ผิดเรื่องแล้ว ออกทะเลไกลไปละ ตัดกลับมาที่เกาะขาม แว๊บบบบบ

เกาะขามยามน้ำลง

เนื่องจากตอนเช้าน้ำลงทำให้ระยะทางที่ต้องลากเรือลงน้ำไกลมากซึ่งมันเหนื่อยสุดๆ ใช้แรงเยอะกว่าพายเรือเสียอีก นอกจากนี้เมื่อน้ำลงเราต้องเดินผ่านหินเล็กหินน้อยที่คอยบาดเท้าเราให้เจ็บช้ำทรมาน ดังนั้นเราว่า พายตอนเย็นๆน่าจะดีกว่านะ หลังจากกลับมาที่เกาะหมากได้อย่างปลอดภัย ก็จัดการกับอาหารเช้าก่อนที่จะเดินทางกลับในเวลา 11.00 น.  

มื้อสุดท้ายบนเกาะหมาก : ข้าวไข่ยัดไส้

การเดินทาง

• พนักงานมาส่งที่ท่าเรือ
• นั่ง Leelawadee Speed Boat 450 บาท 50 นาที ถึงท่าเรือแหลมงอบ
• นั่งสองแถวจากแหลมงอบ 50 บาท ไปตลาดเพื่อซื้อของฝาก
• นั่งสองแถวจากตลาด 20 บาท ไปยัง บขส. เพื่อขึ้นรถกลับ ถึง บขส. เวลา 13.40 น. เราตั้งใจกลับรถทัวร์ของบริษัท 999 เพื่อลงที่สุวรรณภูมิ แต่มาไม่ทัน รถออกไปก่อนแล้วในเวลา 13.30 น. ทำให้ต้องเปลี่ยนแผนไปนั่งรถของ เชิดชัยทัวร์ที่มีเจ๊เกียวเป็นเจ้าของ ขอบอกเลยว่ารถของเชิดชัยดีกว่าของ 999 เยอะมาก รถสะอาดและกว้างกว่าของ 999 เยอะมาก (เชิดชัยถูกกว่า 999 ประมาณ 20 บาท) 

สุดท้ายนี้ถ้ามีโอกาสเราคงกลับไปซ้ำที่เกาะหมากอีกแน่นอน ใครที่ชอบเกาะที่สงบ ผู้คนเป็นกันเอง เกาะหมากเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะ

เกาะหมาก : สวยม๊ากมาก EP#1

สวัสดีค่า เมื่อไม่กี่วันมานี้ได้มีโอกาสไปเที่ยวเกาะหมาก ขอบอกเลยว่าเป็นทริปที่ประทับใจมากๆ เลยอยากแชร์ความประทับใจในครั้งนี้ค่ะ

Review :Rimmel Stay Matte Pressed Powder - 001 – Transparent‏‎

    Hi! Everyone. Welcome back to Buildtiful. Today I have one of my favorite thing and it’s very interesting thing. That is Rimmel Stay Matte Pressed Powder. Rimmel is drug store brand from UK, so the price is not too expensive.  This brand is famous for many years in Thailand, but no shop here. If you would like to buy this brand, you need to order with “Pre Order Shop”

Rimmel Rimmel Stay Matte Pressed Powder

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆทุกคน กลับมาอีกครั้ง วันนี้มีอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจมากทีเดียวค่ะ นั้นก็คือ Rimmel Stay Matte Pressed Powder โดยแบรนด์นี้เป็นแบรนด์ Drug Store จากประเทศอังกฤษนะคะ

Liese Cream Bubble Color - Dark Chocolat

สวัสดีค่า เพื่อนๆทุกคน วันนี้จะมารีวิว Liese Cream Bubble Color  ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมชนิดโฟมที่สามารถทำเองได้ง่ายๆที่บ้านค่ะ

Review Jo Malone : Wood Sage and Sea Salt

JO MALONE :Wood Sage and Sea Salt

    นี่เป็นน้ำหอมจาก Jo Malone กลิ่นแรก ที่รู้สึกว่าน่าสนใจมาก และนี่จะเป็นน้ำหอมกลิ่นที่ชอบมากที่สุดตลอดกาลค่ะ กลิ่นที่เลือกมานั้นก็คือ กลิ่น “Wood Sage and Sea Salt“

First impression : Jo Malone – Wood Sage and Sea Salt

 Jo Malone – Wood Sage and Sea Salt

Jo Malone – Wood Sage and Sea Salt

THIS IS MY FIRST COLOGNE THAT I INTERESTED FROM JO MALONE. AND IT GONNA BE MY FAVORITE SCENT FOREVER!!!